การซื้อประกันรถยนต์คือการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการชนรถ, รถหาย, น้ำท่วม หรือสถานการณ์อื่น ๆ อีกด้วย หลายคนที่กำลังค้นหาประกันรถยนต์อาจยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกประกันประเภทใดเพื่อความคุ้มครองและครอบคลุมค่าเสียหายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์ว่ามีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร

ประกันรถยนต์ชั้น 1 

ประกันชั้น 1 เป็นทางเลือกที่มีความนิยมในส่วนมาก เมื่อผู้ประกันต้องจ่ายเบี้ยที่สูงในปีละครั้ง เรื่ยมเพราะประกันชั้นนี้มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งสองฝ่ายในกรณีที่เกิดเหตุขึ้น ความคุ้มครองระบุไว้คร่าว ๆ ดังนี้: ความบาดเจ็บ, ความเสียหายต่อรถยนต์, การถูกปล้น, ความเสียหายจากธรรมชาติเช่นไฟไหม้, น้ำท่วม และค่าใช้จ่ายในการลากจูงรถ เป็นสิ่งที่ทำให้ประกันชั้น 1 เป็นตัวเลือกที่ครอบคลุมมากที่สุดตามความเห็นของหลาย ๆ คน

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคุ้มครองที่แทบไม่ต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยไม่คาดคิดและต้องทำการเคลมค่าเสียหายที่สูง ๆ แต่มีข้อจำกัดคือจะคุ้มครองเฉพาะรถที่เป็นรถของคุณเท่านั้น ไม่เหมือนกับประกันชั้น 1 ที่คุ้มครองทั้งรถของคุณและรถของคู่กรณี หากคุณเป็นคนขับรถที่มีประวัติดีและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อย ประกันรถยนต์ชั้น 2+ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้อย่างแน่นอน

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2

ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 มีความคุ้มครองเฉพาะในกรณีของคู่กรณีเท่านั้น และไม่ครอบคลุมเหตุเช่ยวชน, การพลิกคว่ำ, หรืออุบัติเหตุเมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด นอกจากนี้ยังคุ้มครองความสูญหายและเหตุไฟไหม้ของรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยด้วย ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 เหมาะสำหรับคนที่ขับรถอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงน้อย แต่ต้องจอดรถในที่ที่เปลี่ยนบ่อย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ มอบความคุ้มครองสำหรับความเสียหายของรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและรถชนรถเท่านั้น แต่ไม่ครอบคลุมค่าเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้, น้ำท่วม, ถูกโจรกรรม, หรือสูญหาย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ใช้งานบ่อยหรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

เป็นประกันที่มีเบี้ยประกันที่ราคาถูกที่สุดนอกเสียงประกันชั้น 4 โดยมีความคุ้มครองเฉพาะชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น เมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด และมีการคุ้มครองไม่เกินจำกัดที่ระบุไว้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าชดเชยรายได้สำหรับผู้บาดเจ็บ, ค่าใช้จ่ายในการสู้คดีและค่าทนายความจนกว่าคดีจะสิ้นสุด แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะไม่เกินขีดจำกัดที่ได้กำหนดไว้ในสัญญากับบริษัทประกันภัยรถยนต์