การแปลเป็นกระบวนการถ่ายทอดความหมายจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง กระบวนการนี้ต้องอาศัยความแม่นยำในการถ่ายทอดความหมายของต้นฉบับให้ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด ซึ่งความแม่นยำในการแปลนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากการแปลไม่แม่นยำอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือบิดเบือนความหมายของต้นฉบับได้

ความแม่นยำในการแปลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

  • ความแม่นยำด้านความหมาย หมายถึง การถ่ายทอดความหมายของต้นฉบับได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง ไม่บิดเบือนความหมายของต้นฉบับ
  • ความแม่นยำด้านรูปแบบ หมายถึง การถ่ายทอดรูปแบบของต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างประโยค สำนวน ไวยากรณ์ และลีลาภาษา

การจะรักษาความแท้จริงในการแปลนั้น นักแปลจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในภาษาต้นฉบับและภาษาเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและบริบทของทั้ง 2 ภาษาด้วย นอกจากนี้ นักแปลยังต้องคำนึงถึงประเด็นต่างๆ ต่อไปนี้ในการแปลอีกด้วย

  • ความชัดเจน การแปลควรมีความชัดเจน เข้าใจง่าย และไม่กำกวม
  • ความถูกต้อง การแปลควรถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และการใช้ภาษาของภาษาเป้าหมาย
  • ความสละสลวย การแปลควรมีความสละสลวย ไพเราะ และอ่านง่าย
  • ความกระชับและกระชับ การแปลควรกระชับและกระชับ ไม่ยืดยาวจนเกินไป

ในบางครั้ง การแปลตามความหมายอย่างตรงตัวอาจไม่สามารถรักษาความแท้จริงในการแปลได้ เนื่องจากภาษาแต่ละภาษามีโครงสร้างและไวยากรณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น นักแปลจึงอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบของต้นฉบับในการแปล เพื่อให้การแปลมีความถูกต้องและเข้าใจง่ายในภาษาเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม นักแปลควรพยายามรักษาความแท้จริงในการแปลให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายของต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการแปลที่ไม่แม่นยำด้านความหมาย

  • ต้นฉบับ: The cat is on the mat.
  • การแปล: แมวอยู่บนเสื่อ

การแปลนี้ถูกต้องตามความหมาย แต่รูปแบบของต้นฉบับไม่ได้ถูกรักษาไว้อย่างถูกต้อง เนื่องจากในภาษาไทยไม่มีคำศัพท์ว่า “mat” ดังนั้น นักแปลจึงอาจแปลเป็น “พรม” หรือ “ผ้าปูพื้น” แทน ซึ่งจะทำให้การแปลมีความถูกต้องและเข้าใจง่ายมากขึ้น

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการแปลที่ไม่แม่นยำด้านรูปแบบ

  • ต้นฉบับ: The boy is eating an apple.
  • การแปล: เด็กชายกินแอปเปิ้ล

การแปลนี้ถูกต้องตามความหมายและรูปแบบของต้นฉบับ อย่างไรก็ตาม การแปลนี้อาจยังไม่สละสลวยเท่าการแปลที่เปลี่ยนโครงสร้างประโยคเป็น “แอปเปิ้ลถูกเด็กชายกิน” ซึ่งจะทำให้การแปลมีความกระชับและกระชับและอ่านง่ายขึ้น

การแปลเป็นทักษะที่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง ดังนั้น นักแปลจึงควรฝึกฝนทักษะการแปลอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถแปลได้อย่างแม่นยำและรักษาความแท้จริงในการแปลได้มากที่สุด

สรุป

ความแม่นยำในการแปลถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากการแปลไม่แม่นยำอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือบิดเบือนความหมายของต้นฉบับได้ ดังนั้น นักแปลจึงควรพยายามรักษาความแท้จริงในการแปลให้ได้มากที่สุด โดยคำนึงถึงประเด็นต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น